ขับรถเที่ยวอังกฤษ สก็อตแลนด์ Part 3 : การขับรถในอังกฤษ , Driving in the UK

The ultimate Road trip across UK

London – Scotland – Isle of Skye

Part 3 การขับรถในอังกฤษ

10cover

ถึง…เธอ

จดหมายฉบับนี้ผมจะเขียนถึงการขับรถในอังกฤษไว้เป็นข้อมูลให้กับคุณ เพราะการเดินทางด้วยการขับรถเที่ยวเป็นอีกรูปแบบของการท่องเที่ยวที่ผมอยากให้ได้ลอง

การขับรถในอังกฤษไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพราะขับพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา แต่ผมมีข้อมูลที่คุณควรจะทราบดังนี้

  1. ประเทศอังกฤษมีการจำกัดความเร็ว ซึ่งค่าปรับแพงมากๆ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่าเราควรขับอยู่ในความเร็วที่กำหนดตลอดเวลา โดยการกำหนดความเร็วคร่าวๆ จะมีดังนี้
    • การใช้ความเร็วบนถนนหลักหรือ Motor way ที่ขึ้นต้นด้วยตัว M เช่น M53 จะจำกัดความเร็วไว้สูงสุดที่ 70 ไมล์/ชั่วโมง
    • ถนนรอง ที่ขึ้นต้นด้วยตัว Aเช่น A52 ถ้าเป็นแบบ 4 เลนก็จะใช้ความเร็วสูงสุดได้ 70ไมล์/ชม. แต่ถ้าเป็นแบบเลนเดียวก็จำจำกัดความเร็วไว้ที่ 50 – 60 ไมล์/ชม.
    • ถนนย่อย ที่ขึ้นต้นด้วยตัว B เช่นB430 ซึ่งเป็นถนนที่วิ่งเชื่อมเมืองเล็กจะใช้ความเร็วได้40 – 50 ไมล์/ชม. ….
    • ในกรณีที่ขับในเมืองหรือชุมชน จะจำกัดความเร็วที่ 20 – 30 ไมล์/ชม. เท่านั้น

ในแต่ละจุดที่มีการปรับความเร็วจะมีป้ายที่ชัดเจนอยู่ข้างทางตลอด และป้ายที่บอกความเร็วนี้จะมีค่อนข้างเยอะตลอดทางเลย ยิ่งถ้ารถใครมี GPS ที่ล้ำสมัยหน่อย ( แบบคันที่ผมใช้ เฮะๆๆ) จะมีการระบุความเร็วที่จำกัดในแต่ละช่วงไว้ด้วยซึ่งมีความแม่นยำมากๆ

2
รถบางรุ่นที่หน้าปัดจะบอกความเร็วที่กำหนดไว้ ณ จุดนั้นไว้ด้วยซึ่งเป๊ะมากๆ

แต่จากประสบการณ์จริงของผมในการขับรถในอังกฤษพบว่าคนอังกฤษเองก็ไม่ได้ขับรถตามความเร็วที่กำหนดไว้ทุกคัน เพราะหลายครั้งจะเห็นได้ชัดว่าขณะที่เรากำลังขับด้วยความเร็วที่กำหนดไว้สูงสุด จะมีรถแซงหน้าเราไปตลอดเวลา เพราะฉะนั้นรถที่แซงหน้าไปพวกนี้ต้องความเร็วเกินกำหนดแน่ๆ

แต่ที่กดดันที่สุดคือการขับรถในเขตเมืองที่จำกัดความเร็วแค่ 20 หรือ 30 ไมล์ จะพบว่ารถคันหน้าขับฉิวไปแล้ว แต่ผมยังต้องขับแบบต๊วบเตี๊ยมๆๆไปเรื่อยๆตามความเร็วที่กำหนดโดยมีรถตามหลังผมมาเป็นขบวน ความรู้สึกนาทีนั้นคือกดดันจริงๆ  แต่ในเมื่อเราเป็นมือใหม่สำหรับที่นี่ ผมก็ขอแนะนำว่าไม่น่าจะเสี่ยงที่จะเพิ่มความเร็วนะครับเพราะค่าปรับสูงมากจริงๆ 

6

เรื่องการชับช้าๆ นี่ไม่นับรวมความรู้สึกที่โดยปกติผมจะเป็นคนค่อนข้างขับรถเร็วอยู่แล้ว เมื่อต้องมาขับด้วยความเร็วแค่นี้ 20 ไมล์ต่อชั่วโมงนี่ก็ช่วยฝึกให้เราหัดข่มใจดีแท้ ฮา

  1. การขับรถในอังกฤษจะมีวงเวียนเยอะมาก โดยหลักการของการเข้าวงเวียนคือเราต้องให้รถทางขวาไปก่อนทุกครั้ง ขอย้ำว่าทุกครั้งขอให้มองขวาก่อนให้ดี ถ้าไม่มีรถมาแล้วถึงจะออกตัวเข้าวงเวียนไปได้ และเมื่อเราเข้าวงเวียนแล้วจะสังเกตได้ว่ารถที่อยู่ทางซ้ายก็จะให้ทางให้เราผ่านไปก่อนเสมอเช่นเดียวกัน

ในกรณีของวงเวียนนี้ ในช่วงแรกๆ หลายคนอาจจะงงว่าแล้วจะขับไปออกทางไหน  เคล็ดลับง่ายๆที่ผมค้นพบคือให้จำเลขที่ถนนที่เราจะไปครับเพราะทางออกจะมีเลขที่ถนนชัดเจน เช่นเราต้องวิ่งไปต่อที่ถนนเส้น M38 ก็ขับออกไปตามเลขถนนที่ป้ายบอกนั้นเลย

  1. ถ้ารถเราวิ่งช้า จากที่สังเกตจะต้องวิ่งเลนซ้ายสุดเหมือนบ้านเรา แต่บางช่วงจะเห็นว่าถ้าจะขับช้าต้องอยู่เลนกลางเพราะเลนซ้ายต้องใช้สำหรับรถที่จะวิ่งไปทางแยกซ้าย อันนี้ต้องคอยสังเกตด้วยตัวเอง
  2. ป้ายบอกทางในอังกฤษจะเน้นชื่อถนนกับชื่อเมืองมากกว่าชื่อสถานที่แม้จะเป็นสถานที่สำคัญก็อาจไม่มีป้ายให้เห็นเลย ดังนั้นเวลาขับรถให้พยายามสังเกตุเส้นถนนเป็นหลักว่าเราต้องใช้ถนนเส้นไหน  โดยเฉพาะเวลางงๆ บนทางแยกก็ให้ขับตามเลขที่ถนนที่เราจะต้องใช้เป็นหลัก เช่น A36 A72 เป็นต้น
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ป้ายบอกสถานที่ในอังกฤษมักจะมีเลขถนนกำกับ เลขถนนสำหรับที่นี่จึงสำคัญมาก
  1. GPS ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ควรจะมีเพราะฉะนั้นตอนเช่ารถควรจะเช่า GPS ไว้ด้วย แต่…Google Map ในมือถือก็ยังมีความจำเป็นเพราะบางสถานที่อาจจะไม่มีข้อมูลขึ้นใน GPS ที่ให้มากับรถ นอกจากนั้นการใช้ 2 ระบบยังสามารถช่วย Recheck ความถูกต้องของจุดหมายปลายทางด้วย และถ้าได้ GPS ดีๆ แบบของรถผมจะมีการแสดงความเร็วที่กำหนดในแต่ละจุด รวมทั้งโชว์จุดที่มีกล้องจับความเร็วแสดงให้เห็นบนแผนที่ด้วย (อันนี้ดีงามมากๆ)

ที่สำคัญทุกครั้งที่เซตสถานที่ปลายทาง ขอให้แน่ใจว่าอยู่ในเมืองที่เราต้องการจะไปเพราะบางสถานที่อาจจะมีชื่อซ้ำๆในหลายเมืองได้ ถ้าขับตาม GPS อาจจะไปโผล่ถึงไหนต่อไหนโดยไม่ตั้งใจได้นะครับ อันนี้เตือนไว้ก่อน

  1. ประเทศอังกฤษเมื่อต้องการให้ทางให้คนอื่นไปก่อน จะมีการกระพริบไฟหน้า แสดงว่าอนุญาตให้เราไปก่อน ซึ่งตรงกันข้ามกับบ้านเราที่การกระพริบไฟหน้าหมายถึงไม่ให้ไป
  2. ถ้าอยู่ในถนนย่อย หรือในซอย ก่อนจะออกมาถนนใหญ่ ต้องรอให้รถถนนใหญ่ผ่านไปให้หมดก่อน เพราะเท่าที่สังเกตถ้ามีรถรออกถนนใหญ่จะไม่มีการออกมาเลย
  3. Bus Lane จะมีการเขียนไว้ที่พื้นถนนอย่างชัดเจน ขอให้สังเกตให้ดี และห้ามวิ่งเข้าไปเด็ดขาด และต้องระวัง บางครั้งอักษรที่เขียนว่า Bus Lane นี้อาจจะมีเริ่มจางไปแล้วบ้าง เพราะฉะนั้นอาจต้องช่วยกันมองให้ดีครับ
  4. บางเส้นทางที่มีการซ่อมแซมหรือทำถนนซึ่งทำให้ถนนเหลือเลนเดียว ระบบที่อังกฤษดีมากครับ คือจะมีการทำไฟแดงขนาดย่อมมาไว้ตรงจุดเริ่มต้นของทางที่ซ่อมแซมเลย แล้วเจ้าไฟแดงนี้ก็จะทยอยปล่อยรถทีละฝั่งให้วิ่งมา ไม่มีการไปวิ่งสวนเลนเบียดกันแบบบ้านเราเพราะฉะนั้นต้องสังเกตเจ้าไฟเขียว ไฟแดงเฉพาะกิจนี้ให้ดี  ถ้าเจอไฟแดงอย่าขับสวนไปเด็ดขาด ไม่งั้นเจอรถที่สวนมาแน่ๆครับ
1
ไฟแดงแบบเฉพาะกิจ เมื่อมีการซ่อมถนน

10. การขับรถในช่วง Highland หรือ Isle of Skle จะมีช่วงโค้งหักศอก หรือมุมโค้งบนเขา อย่าตกใจถ้าคนอังกฤษจะขับมาแบบไม่ลดความเร็วเลย ซึ่งช่วงแรกๆ ผมก็รู้สึกตกใจและหวาดเสียวเหมือนกัน แต่พอขับไปสักพักก็เริ่มชิน เพราะฉะนั้นขอให้คุณมีสติและต้องขับให้อยู่ในเลนเราอยู่เสมอ

7
ถนนหักศอกนี่เลี้ยวกันแบบหน้ากลัวมาก ไม่ลดความเร็วกันลงเลย

11. เส้นทางบนเขา หลายช่วงจะต้องมีการให้ทาง ซึ่งเท่าที่สังเกต รถทางลงเขามักจะเป็นฝ่ายให้ทางกับรถที่กำลังขึ้นเขา และเหมือนจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่รถเป็นฝ่ายได้ทางไปก่อน เวลาขับผ่านคนให้ทางจะยกมือขึ้นเป็นการแสดงความขอบคุณ ส่วนคนที่ให้ทางจะพยักหน้าหรือยกมือตอบก็ได้

การจอดรถในอังกฤษ

  • ผมขอแนะนำให้คุณทำการบ้านก่อนไปล่วงหน้า โดยระบุไว้ใน Program เลยว่าจะจอดรถที่ไหน อย่างไร
  • หากจะจอดริมถนน ถ้าเจอเส้นเหลืองทึบหมายถึง ห้ามจอด หรือจอดได้เฉพาะรถบางชนิดเป็นบางครั้งบางคราว แต่ถ้าเจอเหลืองทึบคู่ คือห้ามจอดเด็ดขาดสีที่จอดได้คือเส้นประสีขาวซึ่งส่วนใหญ่จะมีป้ายแจ้งว่าจอดยังไง จอดได้นานแค่ไหน เพราะฉะนั้นขอให้สังเกตป้ายดีกว่าครับ
  • ที่จอดรถของโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวสถานที่จอดรถในประเทศอังกฤษเท่าที่พบได้แก่…

                   `1. ที่จอดรถของโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยว

                     2. ที่จอดรถสาธารณะริมถนน

           บางเมืองที่มักจะเป็นเมืองเก่าจะหาที่จอดรถค่อนข้างยาก ต้องอาศัยที่จอดรถข้างถนนซึ่งต้องสังเกตป้ายที่ติดไว้ และส่วนใหญ่ที่จอดรถลักษณะนี้จะมีตู้หยอดเหรียญให้เราหยอดเหรียญเพื่อรับบัตรว่าจะจอดกี่ชั่วโมง

2

จากนั้นให้นำบัตรที่ได้จากตู้มาวางไว้หน้ารถในตำแหน่งที่เห็นได้ชัด (ห้ามลืมเด็ดขาด)ที่จอดรถสาธารณะริมถนน

3
อย่าลืมเอาบัตรมาวางไว้หน้ารถ
  • ควรจะพกเหรียญ โดยเฉพาะเหรียญ 1 ปอนด์เก็บไว้ตลอดเวลาเพราะการได้ที่จอดริมถนนบางทีก็เหมือนถูกหวยโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ดังนั้นถ้ามีที่จอดแล้ว แต่กลับไม่มีเหรียญจะหยอดนี่ก็เศร้าไปเลย (เครื่องที่นี่ส่วนใหญ่ไม่รับแบงค์ครับ)
  • ควรกะเวลาจอดดีๆว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เพราะกรณีของผมที่เมือง Bath คิดว่าจะจอดสัก 1ชั่วโมง แต่ตอนขากลับดันเดินหลงทาง พอใกล้จะหมดเวลานี่เรียกว่าวิ่งกันตับแลบเพื่อให้กลับมาทัน
  • ควรถ่ายรูปจุดที่จอดไว้ด้วย เพราะเวลากลับมาจะได้จำตำแหน่งได้
  • ตู้หยอดเหรียญบางจุดจะมีเลขรหัสพื้นที่ให้เรากรอกด้วย ซึ่งเลขรหัสนั้นจะอยู่บนตู้นั่นเอง

              3. ที่จอดรถแบบPark and ride

                ที่จอดรถแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่นอกเมือง คือเป็นสถานที่ๆให้เราจอด จากนั้นก็ใช้รถ Busเข้าเมือง ซึ่งจะใช้ค่าบริการรถบัสแทนค่าจอดรถ

              4. ที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ให้บริการจอดรถ

                ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะรับบัตรตอนขาเข้า จากนั้นต้องไปจ่ายเงินที่ตู้ก่อนนำรถออก (เหมือนระบบลานจอดรถที่สนามบินดอนเมือง)

                 การพักโรงแรมที่ไม่มีที่จอดรถและมีการแนะนำสถานที่จอดรถให้ คุณอย่าลืมสอบถามเรื่องส่วนลดที่สามารถไปใช้ในการลดหย่อนค่าจอดรถได้นะครับ  ซึ่งมีทั้งแบบให้ฟรีและแบบขายคูปอง ในกรณีที่เป็นขายคูปองจะเป็นลักษณะบัตรส่วนลด เช่น ลดไป 5 ปอนด์ แต่เราซื้อแค่ 1 ปอนด์เป็นต้นเพราะฉะนั้นคุ้มแน่ๆครับ

สำหรับวิธีการจ่ายเงิน เวลาไปสถานที่จอดรถ ให้เรามองหาตู้จ่ายเงินก่อน

เมื่อไปอยู่หน้าตู้ก็ให้เสียบบัตรหลักไปก่อน จากนั้นจึงค่อยดึงออก แล้วเสียบบัตรส่วนลดตามไปอีกที  ตู้ก็จะแสดงเงินที่เราต้องจ่ายโดยหักส่วนลดแล้ว  ขอบอกว่าการขอบัตรส่วนลดตรงนี้สำคัญมาก ไม่ควรลืมหรือปล่อยผ่านเพราะลดได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

19
จุดจอดรถที่โรงแรมแนะนำไว้ให้ บางโรงแรมสามารถขอคูปองมาเป็นส่วนลดได้

สำหรับกฎกติกา มารยาท และเทคนิคต่างๆในการขับรถในอังกฤษที่ผมจะเล่าให้คุณอ่านเพื่อเป็นข้อมูลไว้ก็คงเท่านี้  

สุดท้ายเรื่องสำคัญที่สุดในการขับรถเที่ยวก็คือการมีสติ และการเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด  เมื่อวันใดที่คุณมีโอกาสไปขับรถเที่ยวแบบนี้ ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้คงจะมีประโยชน์และขอให้คุณเดินทางปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุ อุบัติภัยใดๆในระหว่างเดินทางและท่องเที่ยวด้วยความสนุกสนานเบิกบานนะครับ

อยากให้คุณอยู่ตรงนั้นด้วยกัน

รักและคิดถึง

MGASTRONOME

3 พฤศจิกายน 2018

Mgastronome_travel

Mgastronome_eat